top of page
Search

คำถามที่พบบ่อยสำหรับคนอยากเรียนดนตรีสอนดนตรี เรียนเปียโนและครูสอนเปียโน


เรียนเปียโน

พื้นฐานการเรียนเปียโน: สิ่งที่ครูและนักเรียนควรรู้

1. เรียนเปียโน เริ่มจากอะไรที่ครูสอนดนตรีสอนเปียโนและคนเรียนดนตรีเรียนเปียโนควรทราบ


การเริ่มเรียนเปียโนเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ผู้เริ่มต้นมักมีคำถามว่า “ควรเริ่มจากอะไร” สิ่งแรกที่ต้องทำคือทำความเข้าใจกับเครื่องดนตรีชนิดนี้ เปียโนมี 88 คีย์ ซึ่งแบ่งเป็นคีย์สีขาวและสีดำ ผู้เริ่มต้นควรเริ่มจากการเรียนรู้ตำแหน่งของโน้ตพื้นฐาน เช่น C, D, E, F, G, A, และ B โดยใช้ Middle C (โดกลาง) เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการทำความเข้าใจตำแหน่งของโน้ตบนคีย์บอร์ด


ถัดมาคือการเรียนรู้ท่าทางการวางมือที่ถูกต้อง มือของคุณควรอยู่ในตำแหน่งที่นิ้วโค้งเล็กน้อย ไม่ตึงหรือแข็งเกินไป วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บและเพิ่มความคล่องตัวในการเล่น ควรฝึกการเคลื่อนไหวของนิ้วแต่ละนิ้วบนคีย์ให้คล่องแคล่ว โดยเริ่มจากการฝึกเล่นสเกลง่าย ๆ


การอ่านโน้ตเพลงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรเรียนรู้ตั้งแต่เริ่มต้น คุณควรเริ่มจากโน้ตพื้นฐานใน Grand Staff ซึ่งประกอบด้วยบรรทัดห้าเส้นสำหรับมือขวาและมือซ้าย การฝึกอ่านและเล่นไปพร้อม ๆ กันช่วยให้คุณเข้าใจเพลงได้รวดเร็วขึ้น


การฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอเป็นหัวใจสำคัญในการเรียนเปียโน คุณสามารถเริ่มจากการเล่นเพลงง่าย ๆ เช่น “Twinkle Twinkle Little Star” หรือ “Happy Birthday” เพื่อสร้างความมั่นใจและความสนุก จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มความยากในเพลงที่คุณเล่น


สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเรียนกับครูตัวต่อตัว แอปพลิเคชันเปียโน เช่น Simply Piano หรือ Flowkey สามารถช่วยให้คุณเรียนรู้เปียโนได้ด้วยตัวเอง แอปเหล่านี้มีแบบฝึกหัดตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงขั้นสูง และช่วยให้คุณฝึกเล่นเพลงได้หลากหลายแนว นอกจากนี้ การดูคลิปสอนเล่นเปียโนบน YouTube ก็เป็นอีกวิธีที่ดีสำหรับการเริ่มต้น 【แหล่งที่มา: Simply Piano, Flowkey】


การเรียนเปียโนไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใช้ความพยายามและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เมื่อคุณเริ่มต้นได้ดีและเข้าใจพื้นฐาน จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและพร้อมสำหรับการเรียนในระดับที่สูงขึ้น


2. ค่าใช้จ่ายและการเรียนเปียโนที่ครูสอนดนตรีสอนเปียโนและคนเรียนดนตรีเรียนเปียโนควรทราบ

การเรียนเปียโนมักมีค่าใช้จ่ายที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับวิธีการเรียนและสถานที่ที่เลือก สำหรับการเรียนตัวต่อตัวกับครูผู้มีประสบการณ์ ค่าเรียนอาจเริ่มต้นที่ 300-1,500 บาทต่อชั่วโมง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคำแนะนำเฉพาะตัวและปรับปรุงเทคนิคการเล่นเปียโนโดยตรง


สำหรับโรงเรียนดนตรีชื่อดัง เช่น Yamaha Music School หรือ KPN Music Academy มีหลักสูตรที่เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยมีค่าเรียนรายเดือนเริ่มต้นประมาณ 2,000-4,000 บาท ค่าเรียนเหล่านี้มักรวมถึงการใช้ห้องซ้อมเปียโนที่มีคุณภาพดี


นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ด้วยตัวเอง การซื้อคีย์บอร์ดไฟฟ้าสำหรับฝึกฝนที่บ้านเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ราคาคีย์บอร์ดสำหรับผู้เริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 5,000-10,000 บาท และหากต้องการเสียงที่สมจริงมากขึ้น การเลือกเปียโนไฟฟ้าที่มีราคาเริ่มต้น 20,000 บาทขึ้นไปก็เป็นทางเลือกที่ดี


หากคุณสนใจการเรียนออนไลน์ แอปพลิเคชันเปียโนอย่าง Simply Piano หรือ Yousician มีค่าใช้จ่ายรายปีประมาณ 2,000-4,000 บาท ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนด้วยตนเองและมีความยืดหยุ่นในการเรียน


สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้แบบประหยัด การดูคลิปสอนเล่นเปียโนฟรีบน YouTube ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ คุณยังสามารถหาโน้ตเพลงฟรีจากเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อนำมาฝึกฝนได้


ค่าใช้จ่ายในการเรียนเปียโนอาจดูสูงในตอนแรก แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากคุณตั้งใจฝึกฝน คุณจะสามารถเล่นเพลงที่คุณชื่นชอบและพัฒนาทักษะจนกลายเป็นความสามารถที่ติดตัวไปตลอดชีวิต 【แหล่งที่มา: Yamaha Music School, Simply Piano】


หากต้องการเนื้อหาส่วนที่เหลือ ให้แจ้งหัวข้อที่คุณต้องการเพิ่มเติมหรือคำแนะนำเพิ่มเติมได้เลย!



3. แอปพลิเคชันสำหรับการเรียนเปียโนที่ดีที่สุด


ในยุคดิจิทัล การเรียนเปียโนไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียนดนตรีเสมอไป เพราะมีแอปพลิเคชันหลากหลายที่ช่วยให้คุณเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น แอปยอดนิยมที่เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์ ได้แก่

1. Simply Piano:

• เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนเปียโนอย่างเป็นขั้นตอน แอปนี้มีฟีเจอร์ตรวจจับเสียงจากเปียโนของคุณโดยตรง และจะให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์

• ราคาสมาชิกประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อปี

• มีบทเรียนที่หลากหลาย เช่น การเล่นคอร์ดพื้นฐาน เพลงป๊อป และเพลงคลาสสิก

2. Flowkey:

• แอปนี้มีจุดเด่นคือการฝึกเล่นเพลงจริงจากโน้ตที่จัดเตรียมไว้ มีเพลงตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงขั้นสูง

• มีโหมดฝึกซ้อมที่ช่วยให้คุณเล่นช้าลงเพื่อปรับจังหวะได้

• ค่าบริการเริ่มต้นที่ 1,800 บาทต่อปี

3. Yousician:

• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เครื่องดนตรีหลายชนิด รวมถึงเปียโน

• แอปนี้มีการฝึกแบบเกม ทำให้การเรียนสนุกและไม่เคร่งเครียด

• ราคาสมาชิกเริ่มต้นที่ ประมาณ 300 บาทต่อเดือน

4. Piano Academy:

• เน้นการสอนอ่านโน้ตเพลงและการพัฒนาทักษะพื้นฐาน

• มีบทเรียนที่เหมาะกับเด็กและผู้ใหญ่

• ฟรีสำหรับบางฟีเจอร์ แต่ต้องสมัครสมาชิกเพื่อเข้าถึงบทเรียนเต็มรูปแบบ


แอปพลิเคชันทั้งหมดนี้สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งในระบบ iOS และ Android และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา 【แหล่งที่มา: Simply Piano, Flowkey, Yousician】


4. Middle C หมายถึงอะไร


Middle C หรือ โดกลาง เป็นโน้ตสำคัญที่อยู่ตรงกลางของคีย์บอร์ดเปียโน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการเรียนรู้เปียโน โน้ตนี้มีความสำคัญเพราะช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจโครงสร้างของคีย์บอร์ดได้ง่ายขึ้น


ในแง่ดนตรี Middle C คือโน้ต C ที่อยู่ใกล้กลางบรรทัด 5 เส้น (Grand Staff) โดยบนบรรทัดสำหรับมือขวา (Treble Clef) มักเขียนอยู่ใต้บรรทัดล่างสุด ส่วนในบรรทัดสำหรับมือซ้าย (Bass Clef) มักเขียนอยู่เหนือบรรทัดบนสุด


Middle C ช่วยให้ผู้เล่นสามารถวางตำแหน่งมือได้อย่างเหมาะสม เช่น การเล่นเพลงที่เริ่มจากมือขวาและมือซ้ายในระดับที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการเรียนรู้ตำแหน่งโน้ตอื่น ๆ เช่น D, E, และ F ที่อยู่ถัดไป


หากคุณกำลังเรียนรู้การอ่านโน้ต Middle C จะเป็นโน้ตที่คุณพบได้บ่อยในบทเรียนพื้นฐาน เช่น เพลงเด็กอย่าง “Mary Had a Little Lamb” หรือ “Twinkle Twinkle Little Star” ดังนั้น การเข้าใจตำแหน่งและความสำคัญของ Middle C จึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นเล่นเปียโน 【แหล่งที่มา: Alfred’s Basic Piano Library】


5. การดูแลรักษาเปียโนควรทำอย่างไร


การดูแลเปียโนอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานและคงคุณภาพเสียงให้อยู่ในระดับที่ดี ขั้นตอนสำคัญในการดูแลเปียโนมีดังนี้:

1. วางเปียโนในตำแหน่งที่เหมาะสม

• หลีกเลี่ยงการวางเปียโนใกล้หน้าต่างหรือบริเวณที่มีความชื้นสูง

• ไม่ควรวางเปียโนในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรง เพราะอาจทำให้สีของเปียโนซีดและวัสดุเสียหาย

2. การปรับจูนเสียง

• ควรจูนเปียโนอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อคงคุณภาพเสียงให้สมบูรณ์

• การจูนเสียงควรทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์

3. การทำความสะอาด

• ใช้ผ้านุ่มหรือผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดฝุ่นที่ผิวเปียโนอย่างเบามือ

• ห้ามใช้สารเคมีหรือแอลกอฮอล์ทำความสะอาด เพราะอาจทำให้พื้นผิวเปียโนเสียหาย

4. การดูแลคีย์บอร์ด

• เช็ดทำความสะอาดคีย์ด้วยผ้าหมาด ๆ หรือน้ำยาสำหรับเปียโนโดยเฉพาะ

• หลีกเลี่ยงการกดคีย์ด้วยแรงมากเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้คีย์ชำรุด

5. การควบคุมความชื้น

• ใช้เครื่องควบคุมความชื้นในห้องที่วางเปียโน โดยรักษาความชื้นให้อยู่ที่ประมาณ 40-50%

• หากเปียโนตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น จังหวัดใกล้ทะเล ควรใช้สารดูดความชื้นเพื่อป้องกันการเกิดสนิม

6. การดูแลสายเปียโนและชิ้นส่วนภายใน

• ตรวจสอบสายเปียโนและค้อนเปียโนเป็นระยะ เพื่อป้องกันการชำรุด

• หากพบปัญหา เช่น เสียงไม่สมบูรณ์หรือคีย์ติด ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ


การดูแลเปียโนอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังช่วยให้คุณสนุกกับการเล่นเพลงได้อย่างเต็มที่ในระยะยาว 【แหล่งที่มา: Yamaha Music】


หากต้องการบทความเพิ่มเติมในหัวข้ออื่น ๆ แจ้งได้เลยครับ!

 
 
 

Comments


หากคุณสนใจเรื่อง เรียนดนตรี สอนดนตรี เรียนเปียโน

สอนเปียโน นี่คือเว็บไซต์ที่คุณต้องติดตาม

TIGA

STUDIO

© 2023 by Tiga Studio Proudly created with Natthaphol Budagosa

bottom of page